แฮร์รี่ แม็คไกวร์ เกิดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1993 เป็นนักฟุตบอลชาวอังกฤษ ปัจจุบันลงเล่นในตำแหน่งกองหลัง ให้กับสโมสร แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดและทีมชาติอังกฤษ สวมเสื้อหมายเลข 5
แม็คไกวร์เกิดที่เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ เขาเติบโตมาด้วยครอบครัวที่เป็นชนชั้นกลาง ฐานะก็ปานกลางทำให้วัยเด็กของ แม็คไกวร์นั้นค่อนข้างเรียบง่าย และด้วยประเทศทีมีลีกฟุตบอลที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกนั้นทำให้เขาชอบเล่นฟุตบอลเหมือนกับเด็กทั่วไปในประเทศนั้น หลังจากกลับจากโรงเรียนเขารีบเปลี่ยนชุดและตรงไปที่สนามฟุตบอลใกล้บ้าน กลับพี่น้องของเขาทั้งนั้น โดยหลังจากนั้นก็จะกลับบ้านด้วยชุดที่เปื้อนโคลนทุกวัน
การก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์
แม็คไกวร์ ได้เล่นฟุตบอลในนามโรงเรียนในการแข่งขันเล็กๆ และได้เหรียญรางวัลร่วมกับทีมในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย ต่อมาเขาก็ได้เข้าร่วมกับทีมเยาวชนของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และได้ฝึกฝนฟุตบอลที่นั่นจนถึงปี 2011 แม็คไกวร์ก็ได้ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของทีม เขาได้ลงเล่นแบบเต็มที่ให้กับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ในลีกวัน โดยทีมจบอันดับ 3 ติดโซนเพลย์ออฟได้ลุ้นเลื่อนชั้นแต่ต้องใจสลาย เพราะรอบชิงชนะเลิศแพ้จุดโทษ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ 7-8 หลังเสมอ 0-0 ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในคนที่ออกไปยิงจุดโทษแล้วไม่พลาดด้วย แม้จะไม่ได้เลื่อนชั้นแต่ แม็คไกวร์ก็สามารถคว้ารางวัลให้กับตัวเองมากมายในตอนที่เล่นกับทีมชุดใหญ่ของ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด โดยเขาได้เป็นนักเตะเยาวชนยอดเยี่ยมประจำเดือนตั้งแต่ปีแรกที่ค้าแข้งกับทีม และยังคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทีมได้อีกในปีเดียวกัน และยังติดทีมยอดเยี่ยมประจำปีของ ลีกวัน ติดต่อกันถึง 3 ปีซ้อน จากผลงานที่ยอดเยี่ยมของเขาทำให้มีแมวมองจากทีมใหญ่ที่สนใจคว้าตัวเขาไปร่วมทีมด้วย
ต่อมาในปี 2014 สโมสรฮัลล์ซิตี้ ก็มาคว้าตัวแม็คไกวร์ไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 2.5 ล้านปอนด์ แต่ได้ลงสนามไปได้แค่ 6 นัดก็ถูกปล่อยให้ วีแกน แอธเลติก ยืมตัวใช้งานโดย แม็คไกวร์ ลงประเดิมสนามครั้งแรกให้กับฮัลล์ ซิตี้ ในเกม ยูฟ่ายูโรป้าลีก ที่พบกับ KSC LOKEREN OOST-VLAANDEREN จากประเทศเบลเยี่ยม ถือเป็นการประเดิมสนามที่น่าตื่นเต้นสำหรับเขาอย่างมาก
2017 สโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ได้คว้าตัวแม็คไกวร์มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 12.5 ล้านปอนด์ โดยไม่นานเขาก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมมาก จนมีชื่อติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ไปลุยฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย โดยเขาโดยยิงได้รอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ "สิงโตคำราม" ชนะ สวีเดน 2-0 พร้อมช่วยทีมไปไกลถึงรอบตัดเชือกก่อนจบที่ 4 ในทัวร์นาเมนต์ ทำให้เป็นการแจ้งเกิดอย่างสมบูรณ์แบบและกลายเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คของทีมชาติไปแล้ว
เส้นทางทีมชาติของ แม็คไกวร์
จากฟอร์มอันยอดเยี่ยมแปละผลงานอันโดเด่นของ แม็คไกวร์ทำให้ทีมใหญ่ๆ ต่างให้ความสนใจในตัวเขา อยากจะคว้าตัวมาร่วมทีมด้วย แต่ทางต้นสังกัดอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ก็รู้ดีว่า แม็คไกวร์ มีความสำคัญกับทีมมากแค่ไหน ทำให้ทีมประกาศออกไปว่า แม็คไกวร์จะยังคงเล่นให้กับทีมต่อไปแต่สุดท้ายทีมก็รั้งเขาไว้ได้แค่จบฤดูกาล 2018-2019 เท่านั้น เพราะในฤดูกาล 2019-2020 ทางสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ยื่นข้อเสนอเป็นจำนวนเงิน 80 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อตัว แม็คไกวร์มาร่วมทีม ด้วยจำนวนตัวเลขที่ยากจะปฏิเสธบวกกับความทะเยอทะยานของ แม็คไกวร์ที่ไม่อยากหยุดอยู่แค่ทีมระดับกลางของลีก สุดท้ายทางปีศาจแดงก็คว้าตัว แม็คไกวร์ ไปร่วมทีมได้สำเร็จ และเขากลายเป็นเจ้าของสถิติกองหลังที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก ทำลายสถิติเก่าของ เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ตอนย้ายจาก นักบุญเซาธ์แฮมป์ตันไปอยู่กับหงส์แดงลิเวอร์พูล ด้วยจำนวน 75 ล้านปอนด์
เส้นทางทีมชาติของ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ โดยเขาเข้าสู่การเป็นนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษครั้งแรกในระดับเยาวชนอายุไม่เกิน 21 ปี จากนั้นได้มีโอกาสการเข้าร่วมเล่นกับทีมชาติชุดใหญ่เป็นครั้งแรก เมื่อ ปี 2017
- ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม หรือสมัครสมาชิกกับ ts911 เว็บไซต์พนันออนไลน์ที่ดีที่สุดอันดับ 1 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
- หน้าเล่นแทงบอลออนไลน์ และคาสิโนออนไลน์ บนมือถือและ PC อัพเดททุกวันได้ที่ ทางเข้าts911